วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บันทึกการชำด้วยก้านใบ Leaf Cutting

กล๊อกซิเนีย (Gloxinia) เป็นไม้ลงหัว ที่เมื่อดอกโรยและใบทำท่าจะเฉาเราก็สามารถขุดหัวของมันขึ้นมานำไปปลูกใหม่ได้

ได้ยินมาว่าบรรดาน้องกล๊อกที่ขายตามตลาดไม้ประดับนั้นเป็นต้นที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และในบางประเทศสามารถสั่งซื้อเมล็ดทางอินเตอร์เน็ตมาเพาะได้ด้วย แต่ดอกที่บานจนโรยไปต่อหน้าฉันหลายรุ่นแล้วก็ไม่เคยติดเมล็ดให้เห็น



วันหนึ่ง ฉันได้ความรู้จากเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งว่าแค่ตัดใบกล๊อกซิเนียให้ติดก้านมาด้วยแล้วเอาก้านชำน้ำไว้สักระยะ มันจะมีรากงอกและจากนั้นก็จะพัฒนาเป็นหัวเล็ก ๆ ขึ้นมาตรงส่วนที่มีรากงอกนั้น



ใบและก้านใบของกล๊อกซิเนียอวบน้ำแต่บอบบางต่อการกระทบกระทั่ง จับต้องแรงหน่อยก็ช้ำแล้วพาลเน่าได้ง่าย ๆ เชียว ฉันจึงต้องลับมีดเล่มเล็กในครัวจนแน่ใจว่าคมกริบพอที่จะเฉือนก้านใบของมันให้ขาดโดยไม่ชอกช้ำได้ แล้วค่อย ๆ บรรจงตัดใบออกจากกอต้นที่ดอกเพิ่งโรยไป ฉันไม่ได้ขุดหัวขึ้นมาด้วยเพราะอยากลองว่ามันจะงอกต้นใหม่เลยได้ไหม เผื่อมันจะแตกต่างจากประสบการณ์คราวก่อน



ฉันมีขวดเปล่าของน้ำผลไม้อยู่หลายใบ ทั้งขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไปและความใสของเนื้อแก้วที่สามารถมองเห็นความเป็นไปของก้านใบที่แช่อยู่ทำให้มันเหมาะที่จะใช้เป็นภาชนะในการชำ ลืมบอกไปว่าน้ำที่ใช้ก็แค่น้ำประปาจากก๊อกในบ้านนั่นเอง


ฉันสังเกตเห็นรากเล็ก ๆ งอกจากปลายก้านของพวกมันหลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 7 วัน ในการทดลองก่อนหน้านี้ฉันรวบรัดเอามันไปชำต่อในกระถางเลยโดยใช้พีทมอสแทนดินเพาะก่อนที่จะมีต้นอ่อนโผล่จากพีทมอสขึ้นมา 2 ต้น แต่คราวนี้ฉันเลือกที่จะชำน้ำต่อไปอีก รอจนจากนั้นอีกราว 10 วัน ตุ่มคล้ายหัวที่งอกตามมาก็โตพอจะเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนจึงย้ายขึ้นมาชำในพีทมอสต่อ

ตอนนี้ฉันมีใบกล๊อกซิเนียเกือบ 20 ใบชำในกระถางพีทมอส อีกไม่กี่เดือนพวกมันจะกลายเป็นต้นกล๊อกซิเนียหลายสิบต้นที่เติบโตพอสำหรับการผลิดอกให้ฉันชื่นชม

กว่าจะถึงวันนั้นหัวเดิมของมันน่าจะให้ดอกไปแล้วหนึ่งรุ่นพร้อมใบที่เจริญรอยตามพวกมันอีกจำนวนหนึ่ง และคงผ่านวงจรเช่นนี้จนกำลังมีดอกบานสล้างอีกครั้งแล้วด้วย

และถึงตอนนั้นฉันคงเชี่ยวชาญกว่านี้ในการรบกับเพลี้ยแป้งที่จะมารุกรานบรรดาหลานกล๊อกของฉัน..มั้ง?